มัคคิอาโต้ กาแฟแก้วโปรดสำหรับสายหวาน - กาแฟดอยไทย

มัคคิอาโต้ กาแฟแก้วโปรดสำหรับสายหวาน

มัคคิอาโต้ คำคำนี้เป็นคำในภาษาอิตาลี แปลว่า “marked” นอกจากนี้แล้ว คำคำนี้ยังใช้อธิบาย ถึงเครื่องดื่มกาแฟสุดโปรดของใครหลายคน ซึ่งเป็นหนึ่งในกาแฟนม ที่มีเอสเพรสโซเป็นฐาน ในแต่ละร้านกาแฟ ก็จะมีการเสิร์ฟเครื่องดื่มชนิดนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ไม่มีอัตราส่วนที่แน่ชัด ของการใช้นมในเครื่องดื่มชนิดนี้ ว่าจะต้องใช้ในปริมาณที่เท่าไหร่ นั่นหมายความว่า หากคุณมีโอกาสได้ดื่มมัคคิอาโต้ ในร้านกาแฟที่ต่างกัน ถึงแม้จะสั่งเมนูเดียวกันก็ตาม แต่กาแฟที่ได้อาจมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ถึงอย่างนั้นสิ่งนี้ก็มาจากพื้นฐานเดียวกัน และวันนี้ เราจะพามารู้จักกับพื้นฐานของเครื่องดื่มอย่างมัคคิอาโต้นี้ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และท้ายที่สุด เราจะสามารถพัฒนารสชาติของเครื่องดื่มชนิดนี้ และดัดแปลงให้เป็นเครื่องดื่มมัคคิอาโต้ของเราได้หรือไม่

ต้นกำเนิดของ มัคคิอาโต้

ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดที่มีการระบุว่า เครื่องดื่มชนิดนี้ถือกำเนิดเมื่อ แต่มีการคาดการณ์กันว่า เครื่องดื่มชนิดนี้น่าจะเกิดขึ้นในอิตาลี ช่วงทศวรรษ 80 โดยบาริสต้าชาวอิตาลี ที่ต้องการเครื่องดื่มที่มีความแตกต่างจากเอสเพรสโซแบบปกติ อยากได้เครื่องดื่มที่มีความเข้มข้น อยู่ในระดับนึงกลางระหว่างเอสเพรสโซ แต่ก็ไม่ได้นุ่มนวลแบบกาแฟนมทั่วไป ดังนั้นจึงทำการใส่นมลงไปในเครื่องดื่ม ในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ยังมีเครื่องดื่มที่มีความคล้ายกับมัคคิอาโต้นี้ ที่จะสามารถหาดื่มได้ในโปรตุเกส เครื่องดื่มชนิดนี้มีชื่อว่า café pingano ส่วนผสมเหมือนกัน คือการใส่นมในปริมาณที่เล็กน้อยลงในกาแฟ นั่นหมายความว่า ประเภท หรือสูตรต่าง ๆ ของเมนูมัคคิอาโต้ ก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณของอัตราส่วนของเอสเพรสโซ ต่อนมที่ใช้

อย่างเมนู cortado เป็นเมนูที่ใช้อัตราส่วนของเอสเพรสโซ และนมในอัตราส่วนเท่ากัน piccolo latte ช็อตเอสเพรสโซทีราดด้วยนม และฟองนม และมัคคิอาโต้ เครื่องดื่มเอสเพรสโซ ที่ใส่นมลงไปในปริมาณเล็กน้อย

แต่ถึงแม้จะถูกเรียกว่ามัคคิอาโต้เหมือนกัน หลายที่ก็มีวิธีการเตรียมแตกต่างกันออกไป ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการแยกแยะ และบอกได้อย่างเจาะจงว่า มัคคิอาโต้ที่แท้จริงเป็นอย่างไร อย่างในออสเตรเลีย มีเครื่องดื่มที่มีชื่อว่า long macchiato คือเอสเพรสโซ 2 ช็อต กับนมในปริมาณเล็กน้อย และยังมีเมนูยอดฮิต นำเสนอจากสตาร์บัคส์ อย่างเมนู คาราเมลมัคคิอาโต้ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ถูกคิดค้นในช่วงยุค 90 จะประกอบไปด้วยนม เอสเพรสโซ จากนั้นจะตามด้วยไซรัปคาราเมล และเครื่องปรุงแต่งกลิ่นต่าง ๆ กลายเป็นเมนูที่หอมหวานมัน และกลมกล่อมอย่างลงตัว

Caramel Macchiato

ดังนั้นแล้ว หากจะให้จำกัดความของคำว่า “มัคคิอาโต้” ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากอยู่สักนิด เนื่องจากความแตกต่างและความหลากหลายที่มีมากมาย มีเพียงมัคคิอาโต้ ในคำจำกัดความ หรือในความคิดของแต่ละคนเพียงเท่านั้นเอง

มัคคิอาโต้ รูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

อย่างที่บอกไปว่า เครื่องดื่มชนิดนี้มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายสูตร แต่ละพื้นที่ หรือแม้แต่ละร้านกาแฟ ก็จะมีเมนูมัคคิอาโต้ ที่มีสูตรเเตกต่างกันออกไป และต่อไปจะเป็นเรื่องของความหลากหลาย และตัวอย่างเมนูมัคคิอาโต้ ที่แตกต่างกันออกไป และน่าสนใจ

มีการเรียกเครื่องดื่มสองชนิดที่แตกต่างกัน คือมัคคิอาโต้ และเอสเพรสโซมัคคิอาโต้ โดยเครื่องดื่มมัคคิอาโต้ อาจทำการเสิร์ฟลงในแก้วทรงสูง วัตถุดิบหลักคือเอสเพรสโซ ผสมกับนมเย็น จากนั้นเทนมร้อนให้เป็นเลเยอร์อยู่ด้านบน แต่เมนูเอสเพรสโซมัคคิอาโต้ จะเสิร์ฟในแก้วที่มีขนาดเสิร์ฟเล็กกว่า โดยปกติมักจะเสิร์ฟในแก้วเอสเพรสโซ โดยทำการกดเอสเพรสโซในปริมาณปกติ จากนั้นจะเติมนมสตีมลงไปจนเต็ม

ในลอนดอน มีการเสิร์ฟมัคคิอาโต้ที่น่าสนใจ โดยจะใช้เอสเพรสโซดับเบิ้ลช็อต แล้วนำฟองนมมาราดลงบนช้อน เพื่อให้เกิดการแบ่งชั้นสวยงาม กลับกันในอิตาลี มีการเสิร์ฟมัคคิอาโต้อีกแบบ โดยจะมีการทำลาเต้อาร์ตด้วย บางร้านมีการใช้นมสตีม บางร้านใช้เพียงแค่นมเย็นเลยก็มี

มัคคิอาโต้ เหมาะกับใคร

ไม่ว่าสูตรจะมีมากมายหลากหลายขนาดไหน นมที่ใช้จะเป็นนมสตีม หรือนมเย็น แต่เครื่องดื่มชนิดนี้ก็มีพื้นฐานเดียวกัน คือเป็นเครื่องดื่มที่มีเอสเพรสโซเป็นหลัก เอสเพรสโซมัคคิอาโต้เป็นเครืองดื่มชนิดหึ่งที่นิยมทำเสิร์ฟ  และหาดื่มได้ในหลาย ๆ ประเทศ ทั้งนี้ก็เนื่องจากความเข้มข้น ที่ไม่ได้เข้มเท่ากับเอสเพรสโซ และก็ยังไม่ได้เจือจางเท่ากับลาเต้ นับว่าอยู่ในระดับกึ่งกลางของเครื่องดื่มทั้งสอง เหมาะจะเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มเพื่อเริ่มวันใหม่ในตอนเช้าเป็นอย่างมาก หากเป็นเครื่องดื่มอย่างคาปูชิโน่ หรือลาเต้ก็อาจจะหนักไปสำหรับตอนเช้า ดังนั้น มัคคิอาโต้จึงเหมาะสมที่สุด (สำหรับบางคน)

มัคคิอาโต้ ให้อารมณ์เหมือนกับเราได้ดื่มเอสเพรสโซ แต่เป็นในรูปแบบที่มีความกลมกล่อมและความนุ่มนวลกว่า ทำให้ได้ความหวาน และรสชาติกับกลิ่นเพิ่มเติมของนมเล็กน้อย ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เลือกสั่งเมนูนี้ในร้านกาแฟ บางคนต้องการที่จะดื่มกาแฟเข้ม ๆ ยังคงอยากได้ความเข้มข้นของเอสเพรสโซ แต่ก็ขอความนุ่มนวลเพิ่มเข้ามาเล็กน้อย มีฟองนมเพิ่มเข้ามาเป็นส่วนปะกอบเสริม เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสให้กับเครื่องดื่ม แต่จะสั่งกาแฟนมหนัก ๆ อย่างลาเต้ หรือคาปูชิโน่ก็จะเนการไปเจือจางกาแฟมากจนเกินไป

ในอีกตลาดหนึ่ง นั่นคือตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ มัคคิอาโต้ถูกมองว่าเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า และเป็นเครื่องดื่มทางเลือก เนื่องจกการที่มีปริมาณของนม หรือฟองนมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การที่มีนมในปริมาณเล็กน้อย ไม่ได้ทำให้ปริมาณแคลอรีของเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นมามากมายนัก หรือหากยิ่งเป็นนมชนิดอื่น ๆ อย่างนมทางเลือก นมจากพืชที่มีอยู่หลากหลาย ก็ยิ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มนี้มากขึ้นไปอีก

Iced Caramel Macchiato

จะว่าไปแล้ว เรื่องของสุขภาพก็เป็นเรื่องที่สำคัญ หากเลือกที่จะดื่มกาแฟแต่ละชนิด อย่างน้อย เอสเพรสโซมัคคิอาโต หรือแม้แต่เมนูมัคคิอาโต้เลย ก็ยังเพิ่มปริมาณแคลอรีในแก้วกาแฟน้อยกว่าเครื่องดื่มกาแฟนมแบบจริงจังอย่างคาปูชิโน่ หรือลาเต้อยู่มาก อีกทั้งสำหรับสายหวาน การดื่มเอสเพรสโซมัคคิอาโต้ ยังเป็นการช่วยในการลดปริมาณของการใส่น้ำตาลลงในกาแฟได้วย เนื่องจากนม และฟองนมที่ใส่ลงไปในเอสเพรสโซนั้น จะทำให้กาแฟหวานขึ้นโดยธรรมชาติ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำตาลเพิ่มเข้าไป ด้วยเหตุเหล่านี้เอง เครื่องดื่มมัคิอาโต้ และเครื่องดื่มในตระกูลนี้ จึงถูกมองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อสุขภาพไปโดยปริยาย

มัคคิอาโต้จะยังคงอยู่ในร้านกาแฟหรือไม่

มัคคิอาโต้ ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเครื่องดื่มที่มีศักยภาพมากพอ ที่สามารถที่จะดึงดูดลูกค้าบางกลุ่มได้ ด้วยความหลากหลาย และสูตรที่มีความแตกต่างกันในแต่ละร้าน จึงทำให้เครื่องดื่มชนิดนี้มีความน่าสนใจอยู่ด้วย โจทย์หลักของมัคคิอาโต้ ที่น่าสนใจที่จะนำไปต่อยอดคือ การเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดังนั้น การพัฒนาเครื่องดื่มชนิดนี้ต่อไปในอนาคต เราอาจจะได้มัคคิอาโต้ ที่ใช้ปริมาณนมน้อยลงไปอีก

อีกเหตุผลหนึ่งที่เป็นเหตุผลหลักเช่นกัน เกิดจากอุตสาหกรรมกาแฟที่ใส่ใจในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น ผู้คั่วกาแฟเริ่มั่วเมล็ดกาแฟสำหรับเอสเพรสโซ โดยมีจุดหมายเพื่อให้เอสเพรสโซเกิดความสมดุลมากยิ่งขึ้น อร่อยขึ้น และสามารถยืนได้ด้วยตัวของมันเอง เอสเพรสโซจะมีความดีงามอยู่แล้ว โดยจะพยายามใส่สานปรุงแต่งลงไปให้น้อยที่สุด พวกนมหรือน้ำตาล

แต่เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก การคั่วกาแฟให้ออกมาในโปรไฟล์ที่ต่างกันนั้น สามารถที่จะรองรับวิธีการที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นกาแฟคั่วเข้ม เราจะสามารถใส่นม หรือน้ำตาล หรือแม้แต่เกลือลงไปเพิ่มได้ ซึ่งสอดรับกับการทำมัคคิอาโต้ แต่ก็จะไม่ได้สัมผัสกับรสชาติที่แท้จริงของกาฟเท่าไหร่นัก ในทางกลับกัน หากเลือกคั่วกาแฟให้อ่อนลงมาสักนิด อาจเป็นการคั่วในระดับคั่วกลาง ผลลัพธ์ที่ได้ อาจได้กาฟที่มีความสมดุล ดังนั้นจึงอาจจะไม่จำเป็นต้องเติมนมก็ได้ ลูกค้าก็มีแนวโน้มที่จะสั่งมัคคิอาโต้น้อยลง

หากมองในอุตสาหกรรมใหญ่ เมื่อบริษัทต่าง ๆ รวมถึงผู้ผลิตรายใหญ่ หันมาใส่ใจและเริ่มคั่วกาแฟโดยเน้นไปที่เรื่องของคุณภาพของกาแฟที่ได้ นมที่เคยต้องมาชดเชยข้อด้อยบางอย่างของกาแฟก็จะถูกใช้น้อยลง กลับมาที่บาริสต้า นับว่าเป็นเองที่ค่อนข้างยาก ที่จะทำเอสเพรสโซมัคคิอาโต้ออกมาให้มีความสมดุล เนื่องจากหากใช้กาแฟที่ผ่านการคั่วอย่างสมดุลแล้ว การจะเพิ่มนมลงไป แล้วให้ไปชูรสของกาแฟเพิ่มอีกก็เป็นเรืองยาก หรือการพยายามปรับสมดุล ให้มากยิ่งขึ้นในเครื่องดื่มก็ยากเหมือนกัน เพนื่องจากหากเลือกนมไม่ถูก และใช้อัตราส่วนที่ไม่สมดุล นอกจากจะไม่ชูรสของเครื่องดื่มแล้ว ยังเป็นการไปกลบรสของเครื่องดื่มนั้นด้วย

หากมองในอีกมุมหนึ่ง เครื่องดื่มเอสเพรสโซมัคคิอาโต้ หรือการใส่นมเพิ่มลงในเอสเพรสโซ สามารถที่จะเป็นการกลบข้อด้อยบางอย่างที่อยู่ในเอสเพรสโซได้ด้วยเหมือนกัน

Coffee Macchiato

ท้ายที่สุดแล้วจะอย่างไรก็ตาม เราก็ยังบอกไม่ได้เสียทีเดียว ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้ จะสามารถยืนอยู่ในร้านกาแฟได้หรือไม่ หากเป็นเครื่องดื่มที่แปลงไปเป็นเครื่องดื่มของหวานอย่างคาราเมลมัคคิอาโต้ อันนั้นมีตลาดของเขาอย่างชัดเจนอยู่แล้ว สามารถไปต่อได้อย่างแน่นอน แต่หากเป็นในรูปแบบอื่น ๆ อย่างเอสเพรสดซมัคคิอาโต้ หรือมัคคิอาโต้ปกติ ก็น่าจะยังคงอยู่ ในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟนี้อยู่แล้ว หรืออยากลองกาแฟมัคคิอาโต้ที่อาจจะยังไม่เคยลิ้มลองนี้

สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ถึงแม้ว่า มัคคิอาโต้จะไม่ได้กลายเป็นเครื่องดื่มกระแสหลัก เหมือนกับเมนูอเมริกาโน่ หรือกาแฟนมอื่น ๆ แต่หากคุณรักเครื่องดื่มชนิดนี้ ก็ดื่มต่อไป หรือหากอยากลอง สำหรับผู่ที่ไม่เคยลิ้มลอง และอาจจะเบื่อเอสเพรสโซช็อต ลองเนเอสเพรสโซมัคคิอาโต้ก็ดูไม่เลวเหมือนกัน