ปัจจัยในการแบ่งระดับของกาแฟ

Share on facebook
Share on twitter

“กาแฟนี่มีแบ่งระดับด้วยเหรอ ?”

คำถามที่ไม่คาดคิดจากพี่ชายผู้ไม่เคยสนใจไยดีกับโลกภายนอก ทำเอาเราสตั๊นไป 10 วิฯ

ชนวนคำถามมาจาก ‘กาแฟแบบดริปเกรดพรีเมี่ยม’ ที่น้องสาวเพิ่งได้รับจากเพื่อนส่งมาให้ แล้วเราหันไปเห็นเข้าก็เลยอุทานออกมาว่า “เป็นกาแฟดริปชั้นดีเลยนะนั่น” พี่ชายสุดหล่อบังเอิญได้ยินคงหมั่นไส้ เลยตั้งคำถามไปอย่างนั้น ๆ แหละ เพราะดูเหมือนเขาไม่ได้สนใจที่จะฟังคำตอบเลยสักนิด

แต่เอาเถอะ ไหน ๆ ก็อุตส่าห์ถามมาแล้ว ลองหาคำตอบไว้สักหน่อยก็ไม่เสียหาย

ว่าแต่มีอะไรบ้างนะ ที่เป็นปัจจัยในการแบ่งคุณภาพกาแฟที่เราดื่มกันอยู่ทุกวันนี้

เท่าที่เคยได้ยินได้ฟังมา ตัวแปรหลัก ๆ ก็จะมีตั้งแต่แหล่งที่ปลูก สายพันธุ์กาแฟ การเก็บเกี่ยว การแปรรูป การคั่ว การจัดการหลังการคั่ว การบด และกรรมวิธีในการชง

อย่างเช่นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า เห็นว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่บริเวณที่ราบสูงของเอธิโอเปีย ต้องปลูกในเขตพื้นที่สูง อากาศเย็น และต้องดูแลเอาใจใส่ค่อนข้างมากเพื่อให้ได้ผลผลิตตามต้องการ ในประเทศไทยปลูกมากที่สุดที่ภาคเหนือ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง

อาราบิก้าเป็นกาแฟคุณภาพสูงที่มีความโดดเด่นในเรื่องกลิ่น…ที่หอมแบบพอดี มีรสชาติที่นุ่มนวล เป็นกาแฟประเภทคาเฟอีนต่ำแต่มีสารกาแฟสูง เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวา จึงได้รับความนิยมมากมายจากคนทั่วโลก มากถึงร้อยละ 80 กันเลยทีเดียว

ส่วนกาแฟโรบัสต้านั้นเป็นสายพันธุ์ที่ต้องปลูกในพื้นที่ต่ำ อากาศชุ่มชื้น ในประเทศไทยปลูกกันมากที่ภาคใต้ เช่น ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา

โรบัสต้าเป็นกาแฟที่มีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าอาราบีก้าเป็น 2 เท่า มีจุดเด่นในเรื่องของบอดี้ที่หนานุ่ม เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกถึงความนุ่ม ชุ่มคอ มีรสชาติเข้มข้นและค่อนข้างขม จึงเหมาะที่นำไปทำกาแฟสำเร็จรูป หรือนำมาผสมกับอาราบิก้าบางส่วนก่อนนำไปชง ก็จะได้รสชาติกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปอีกแบบ

นอกจากสายพันธุ์กาแฟและแหล่งปลูกแล้ว เรื่องการคัดสรรเมล็ดกาแฟที่ได้คุณภาพก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มีการแบ่งเกรดกาแฟไปโดยอัตโนมัติ เพราะคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่ดี มีความบกพร่องน้อย ย่อมมีมูลค่าสูงกว่าเมล็ดกาแฟที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อนำไปผนวกกับขั้นตอนการแปรรูป คั่ว และจัดเก็บอย่างถูกวิธีด้วยแล้ว ก็จะยิ่งทำให้กาแฟเหล่านั้นมีมูลค่าสูงทวีคูณตามไปด้วย

ที่เล่ามานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของต้นทุนที่ทำให้เกิดมูลค่าในตัวกาแฟ และเป็นที่มาของการแบ่งเกรดกาแฟประเภทเอ บี ซี หรือพรีเมียม โดยไม่นับรวมขั้นตอนการบด การชง อุปกรณ์ ภาชนะ บรรยากาศ ทำเลที่ตั้งของร้าน ที่ล้วนเป็นตัวกำหนดราคากาแฟแต่ละแก้วที่เราดื่ม   แต่ก็อีกนั่นแหละ มันอาจไม่ใช่บทสรุปที่ถูกต้องเสมอไป เพราะคนในแวดวงกาแฟมักจะกล่าวเสมอว่า “กาแฟที่ดีที่สุดคือกาแฟที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ดื่ม” ดังนั้น เพียงแค่คุณรู้สึกอิ่มเอมและพอใจในรสชาติของกาแฟที่ถืออยู่ในมือ นั่นคือความเป็นที่สุดแล้วสำหรับการดื่มกาแฟ