หลายคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟ เพราะเชื่อว่ากาแฟนั้นมีรสที่ค่อนข้างขม และดื่มยาก แต่วันนี้ผมจะมาแนะนำ กาแฟ เมนู มากมายสำหรับสายหวาน ที่รับรองว่าดื่มง่าย เอาใจคนชอบรสหวานอย่างแน่นอน
และนี่คือ กาแฟ เมนู ที่น่าไปหาลอง หาสั่งกันในร้านกาแฟ สำหรับคนสายหวาน ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟใกล้บ้าน หรือร้านกาแฟแบรนด์ต่าง ๆ
Cappuccino

คาปูชิโนเรียกได้ว่าเป็นกาแฟยอดนิยมอย่างแท้จริง กาแฟนี้เป็นกาแฟที่มีเบสเป็นนมที่มีชื่อเสียง และเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของกาแฟนมเลยก็ว่าได้ คาปูชิโนโดยทั่งไปแล้ว หากเป็นสูตรจริง ๆ จะใช้เอสเพรสโซ 1 ช็อต กับนมในอัตราส่วนเท่ากัน จากนั้นจะทำการราดด้วยฟองนม เสิร์ฟแบบร้อน สิ่งที่ให้ความหวานกับกาแฟแก้วนี้คือนม แต่บางร้านก็จะมีการใส่ไซรัปช็อคโกแลต หรือการโรยผงโกโก้ลงไปเพิ่ม เพื่อช่วยเพิ่มความหวานลงไปอีก
มาถึงเรื่องข้อตกลง เรื่องของคาปูชิโนบ้านเรา กับคาปูชิโนทั่วไป อย่างที่เรารู้ว่าคาปูชิโนจะเสิร์ฟแบบร้อน (เท่านั้น) แต่ในร้านกาแฟบ้านเรากลับมีคาปูชิโนเย็นเสิร์ฟ ส่วนตัวมองว่า ให้เรารู้ไว้ว่าสิ่งนี้ที่บ้านเรามี และถ้าไปสั่งที่อื่นจะไม่มี เพียงแค่เราเข้าใจ จะกินหรือดื่มแบบไหนก็ได้ทั้งนั้นนะครับ
Mocha

Moccha (มอคค่า) หรือชื่อเต็ม ๆ ของเขาคือ Mocchachino (มอคค่าชิโน) เป็นกาแฟเอาใจสายหวาน ที่มีส่วนผสมทั้งกาแฟ นม และช็อคโกแลต โดยอัตราส่วนที่ถูกต้องของมอคค่าคือ กาแฟ 1 ส่วนต่อนม 1 ส่วน จากนั้นโรยผงโกโก้ หรืออาจเทผงโกโก้ลงไปก่อน
แต่ละร้านก็จะมีการใช้สูตรของตัวเอง บ้างก็จะมีการเพิ่มช็อคโกแลตจริงลงไป บ้างก็มีการใส่ไซรัปช็อคโกแลตเข้าไป บางร้านมีการเพิ่มครีมเข้าไป เพื่อความนุ่มละมุนมากขึ้นไปอีก
โดยส่วนมากแล้วมอคค่านั้นมักจะเสิร์ฟในแก้วเล็ก ต่อ 1 เสิร์ฟจะไม่ได้ใหญ่ หรือมีปริมาณมากนัก ยิ่งถ้าร้านไหนมีการเขียนไว้อย่างชัดเจน มีการใส่ท้ายชื่อเมนูด้วยคำว่า -ino ให้คุณรู้ไว้เลยว่า จะเสิร์ฟออกมาในแก้วเล็กอย่างแน่นอน เพราะการมีสิ่งนี้ต่อท้าย มีความหมายว่า “เล็ก” ในภาษาอิตาลีนั่นเอง
Affogato

เครื่องดื่มชนิดนี้มักจะถูกจัดอยู่ในประเภทของหวานมากกว่ากาแฟ ดังนั้นถูกใจสายหวานอย่างแน่นอน ชื่อ affogato นี้มาจากภาษาอิตาลี ซึ่งมีความหมายว่า “drowned” หรือการจมลงในน้ำ ที่อิตาลีจะเรียกกาแฟตัวนี้ด้วยชื่อ “affogato al caffè” ซึ่งก็จะมีความหมายว่า “drowned in coffee”
วิธีการทำ affogato คือจะมีกาแฟเป็นฐาน โดยใช้เอสเพรสโซช็อตร้อน ๆ โปะด้วยไอศกรีมวานิลลา 1 หรืออาจถึง 2 สกู๊ป เป็นการผสมผสานกาแฟร้อนกับไอศกรีมเย็นได้อย่างลงตัว ด้วยไอศกรีมวานิลลาที่มีรสชาติหวาน หอม และมัน ผสมกับกาแฟเอสเพรสโซที่มีความขมเล็กน้อย ดังนั้นกาแฟ affogato จึงเป็นอะไรที่ลงตัวมาก
Frappé (กาแฟปั่น)

กาแฟปั่นเป็นเมนูยอดฮิตที่ถูกใจสายหวานแน่นอน ไม่ว่าจะร้านไหน ๆ คุณก็สามารถหากาแฟปั่นดื่มได้ง่าย ๆ ในทุกร้านกาแฟน่าจะมีเมนูนี้อยู่ แต่รู้หรือไม่ ว่ากาแฟปั่นนี้เป็นเมนูที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศกรีซ เพื่อที่จะทำให้กาแฟดื่มง่ายขึ้น จึงถูกเปลี่ยนมาจนเกือบเป็นเมนูของหวาน
เรื่องของสูตรกาแฟปั่น เราเห็นกันหลากหลายแบบ หลากหลายสไตล์กันมาก ๆ บางร้านมีการผสมเอสเพรสโซกับไซรัปต่าง ๆ นมข้น ครีมเทียม นมสด หรือแม้แต่ช็อคโกแลต เมนูนี้ไปได้ไกลกว่านั้นอีก บางร้านมีการใส่คุกกี้ หรือโอริโอ้ลงไปในนั้นด้วย ดังนั้นกาแฟปั่นจึงเป็นความสร้างสรรค์ของผู้ชงกาแฟมากเลยทีเดียว
Bombón

กาแฟชื่อแปลกที่หลายคนอาจจะไม่เคยเห็น หรือไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน bombón เป็นกาแฟตามสไตล์ของสเปน ในภาษาสเปนนั้น โดยปกติแล้ว เครื่องดื่มชนิดนี้จะถูกเรียกว่า café bombón
คำว่า Bombón มีความหมายว่า ช็อคโกแลต แต่น่าแปลก ที่เครื่องดื่มชนิดนี้ ไม่ได้มีส่วนผสมของช็อคโกแลตเลยแม้แต่น้อย โดยสูตรคือ จะทำการผสมเอสเพรสโซและนมข้นหวานในอัตราส่วน 1:1 และมักจะเสิร์ฟในแก้วที่เห็นชั้นของกาแฟและนมข้นที่แยกชั้นกัน ดูไปก็มีความคล้ายกาแฟโบราณบ้านเราอยู่
เหตุที่ใช้ชื่อว่า bombón แต่ไม่มีส่วนผสมของช็อคโกแลตเลย คาดว่าเป็นเพราะเครื่องดื่มชนิดนี้มีความหวานและข้น ดังนั้นจึงมีความคล้ายช็อคโกแลตที่เป็นทั้งเครื่องดื่มและขนมนั่นเอง
Phin cà phê (กาแฟเย็นสไตล์เวียดนาม)

หากว่าเอสเพรสโซเน้นที่ความเร็ว phin cà phê นี่จะเป็นขั้วตรงข้ามจริง ๆ กาแฟเวียดนามตัวนี้เหมาะที่จะดื่มในวันพักผ่อน เพราะใช้เวลาดื่มด่ำค่อนข้างนาน ตั้งแต่กรรมวิธีการชงกาแฟ ที่นำกาแฟมาบด และใช้เวลาต้มกาแฟนานกว่า 10 นาที
จากนั้นนำมากรองด้วยฟิลเตอร์ แล้วเทนมข้นหวานลงไปในปริมาณที่ค่อนข้างมาก จากนั้นเทเครื่องดื่มลงบนน้ำแข็งเย็น ๆ โดยปกติ phin cà phê มักจะเสิร์ฟตามท้องถิ่นของประเทศเวียดนาม หากใครมีโอกาสได้ไปเวียดนาม อยากให้ลองหาดื่มดูนะครับ
Irish coffee

เรียกได้ว่า irish coffee เป็นค็อกเทลกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกก็ได้ แน่นอนว่ามีฐานเป็นกาแฟเอสเพรสโซ บางคนอ่จอยากได้เอสเพรสโซ 1 ช็อต หรือเข้มหน่อยก็ 2 ช็อต แต่กับ irish coffee คุณสามารถที่จะเพิ่มดีกรีความเข้มข้นของกาแฟไปได้อีก
จากนั้นนำเอสเพรสโซที่ได้ไปผสมกับ irish whiskey ไซรัป และครีม วิธีการเติมครีมของเมนูนี้ก็เป็นเอกลักษณ์ โดยการวางช้อนอยู่เหนือแก้ว จากนั้นคว่ำช้อนลง แล้วเทครีมลงบนหลังช้อน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ครีมลอยอยู่เหนือผิวกาแฟอย่างสวยงาม โดยปกติมักจะเสิร์ฟด้วยแก้วทรงสูง ทั้งนี้ก็เพื่อให้เห็นเครื่องดื่มที่เป็นชั้นสวยงาม บางที่จะมีการโรยผงโกโก้ปิดท้ายด้วย
Espresso martini

จะเรียกว่ากาแฟก็ได้ หรือจะเรียกว่าเป็นค็อกเทลก็ใช่อีก กับ espresso martini เครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากในยุคหนึ่ง เป็นหนึ่งในค็อกเทล (หรือกาแฟ) รสหวาน ที่คุณสามารถหาดื่มได้ง่าย ๆ ในยุคนั้น
โดยปกติแล้ว espresso martini จะมีส่วนผสมได้แก่ แน่นอนว่าต้องมีเอสเพรสโซ และมีการเพิ่มเครื่องดื่มอย่างวอดก้า เหล้าลิเควียกาแฟ (coffee liqueur) และไซรัป ลิเควียนั้นเป็นเหล้าที่มีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูงอยู่แล้ว นั่นทำให้เครื่องดื่มชนิดนี้เป็นที่นิยมของผู้ที่เป็นคอกาแฟสายหวาน
นำส่วนผสมทั้งหมดเทลงในเชคเกอร์ จากนั้นเติมน้ำแข็ง และทำการเขย่า เมื่อเสร็จแล้วมักจะเสิร์ฟในแก้วมาร์ตินี่ที่แช่เย็น
กาแฟโบราณ

หากพูดถึงกาแฟสายหวาน จะมองข้ามของดีบ้านเราอย่างกาแฟโบราณไปไม่ได้ กาแฟที่เหล่าอาแปะดื่มกันมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้เองเป็นกาแฟที่มีสูตรมากมายหลากหลายมาก บ้างก็มีการใช้กาแฟที่คั่วกับธัญพืชของไทย บางร้านใช้กาแฟผงสำเร็จรูปก็มี หรือบางร้านก็ใช้กาแฟดีหน่อย แล้วนำมาบดชงเอา
ว่าด้วยเรื่องของกาแฟโบราณ ก็จะมีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายตัว สำหรับในครั้งนี้ที่เอาใจสายหวาน ขอแนะนำเมนูสุดคลาสสิกอย่างโอเลี้ยง คือกาแฟ แล้วเติมน้ำตาลลงไป หรือโอเลี้ยงยกล้อ ที่เพิ่มนม และนมข้น สูตรแล้วแต่ร้าน หรือจะเป็นโกปี๊ กาแฟที่แบ่งแยกชั้นกาแฟกับนมข้นสวยงาม (คล้ายกาแฟเวียดนาม) หรือกาแฟเย็นสูตรบ้านเรา ที่จัดเต็มทั้งความหวานมันของนม นมข้น และน้ำเชื่อม รับรองถูกใจสายหวานแน่นอน