10 อันดับ ประเทศผลิตกาแฟ มากที่สุดในโลก - กาแฟดอยไทย

10 อันดับ ประเทศผลิตกาแฟ มากที่สุดในโลก

ย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้ว ผลผลิตกาแฟส่วนใหญ่นั้นเติบโตในเอธิโอเปียและซูดาน แต่ในปัจจุบันนี้ เราสามารถพบเห็นพืชชนิดนี้ (ในที่นี้หมายถึงเชอรี่กาแฟ) ปลูกกันอยู่ในหลายประเทศ ซึ่งกว่า 70 ประเทศทั่วโลกมีการปลูกเชอรี่กาแฟกัน แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกประเทศที่ส่งออกเมล็ดกาแฟที่ตนเองเป็นผู้ผลิตก็ตาม แต่มีประมาณกว่า 50 ประเทศที่ส่งออกกาแฟไปได้ทั่วโลก และนี่คือรายชื่อ ประเทศผลิตกาแฟ มากที่สุด 10 อันดับแรกของโลก อัพเดทล่าสุดในปี 2021

ประเทศผลิตกาแฟ

กาแฟนั้นเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการซื้อขายมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีเพียงแค่น้ำมันเท่านั้นที่มีการซื้อขายมากกว่ากาแฟ มีความเหมือนกันของ ประเทศผลิตกาแฟ บางอย่างอยู่อย่าง เช่น ประเทศแทบจะทั้งหมดจะตั้งอยู่ในเขตร้อน แต่ที่น่าแปลกคือ กาแฟกลับต้องถูกปลูกในพื้นที่สูง ที่ที่ค่อนข้างมีอากาศเย็น อาจเป็นเรื่องยากสักหน่อยสำหรับผู้ที่ไม่ใช่คอกาแฟตัวยง เป็นเพียงแค่ผู้ที่ต้องการดื่มกาแฟ เพื่อให้มีแรงไปทำงานทั้งวัน ว่ากาแฟที่เราดื่มอยู่นี้มีที่มาที่ไปมาจากไหน ก่อนที่จะมาสู่ร้านกาแฟให้เราได้เลือกซื้อดื่มกัน ไม่แน่กาแฟของคุณอาจจะมาจากผู้ผลิตรายใหญ่ 10 อันดับแรกของโลกนี้ วันนี้เราจะพาคุณไปเที่ยวทั่วโลก ทั้งในทวีปอเมริกาใต้ เอเชีย และแอฟริกา กับ 10 ประเทศผู้ผลิตกาแฟอันดับสูงสุด

อันดับ 10 ยูกันดา 209,325 ตัน

uganda coffee

อันดับ 10 เป็นของประเทศยูกันดา ประเทศยูกันดานั้นเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศผู้ผลิตกาแฟโรบัสต้าเป็นหลัก มีการปลูกกาแฟมาหลายชั่วอายุคนแล้ว และพบได้ทั่วไปในบริเวณป่าดิบชื้น ยังมีการบอกอีกว่า ที่ยูกันดานี้เป็นแหล่งกำเนิดของกาแฟบางสายพันธุ์ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและหายากที่สุด

พื้นที่ที่ใช้ปลูกโรบัสต้า พื้นที่หลักนั้นจะอยู่ในบริเวณแม่น้ำไนล์ตะวันตก ภูมิภาค Okoro บริเวณตอนเหนือของภูมิภาค Lira และ Gulu บริเวณตะวันออกของ Mbale และ Bugisu ทางตอนกลางและตะวันตกเฉียงใต้ของ Jinja, Mukono, Kampala และ Masaka รวมถึงพื้นที่แถบตะวันตกของ Kasese และ Mbarara ด้วย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ที่ประเทศยูกันดาได้มีการผลิตกาแฟอาราบิก้าเกรดพิเศษ ที่เด่น ๆ ของที่นี่จะเป็นกาแฟโรบัสต้าเสียมากกว่า โดยลักษณะของโรบัสต้าจากยูกันดานั้น จะมีความเป็นไวน์ และเป็นกาแฟที่มี acidity สูง มาพร้อมกับโน้ตช็อกโกแลตที่หอมกรุ่น

อันดับ 9 กัวเตมาลา 245,441 ตัน

guatemala coffee

ต่อไปขอเดินทางไปสู่อเมริกากลาง กับประเทศกัวเตมาลาที่มาเป็นอันดับ 9 กาแฟไม่ใช่พืชเศรษฐกิจหลักของที่นี่ จนกระทั่งปลายทศวรรษ 1850 ภายหลังการล่มสลายของอุตสาหกรรมสีย้อมในประเทศ ในยุโรปได้มีการนำสีเคมีมาใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ทำให้กลัวเตมาลาต้องหาผลิตภัณฑ์อื่นมาค้ำจุนประเทศ และกาแฟก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

ในปี 1880 กาแฟนับว่าเป็นผลผลิตกว่า 90% ของประเทศนี้ที่ส่งออกสู่ต่างประเทศ จนถึงทุกวันนี้ อุตสาหกรรมกาแฟในกัวเตมาลายังคงมีขนาดใหญ่ พันธุ์กาแฟที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพของที่นี่คือกาแฟพันธุ์อาราบิก้าเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Caturra, Red Catuai, Yellow Catuai, Red Bourbon และ Yellow Bourbon เมล็ดกาแฟของที่นี่นั้นจะเติบโตในพื้นที่ที่มีดินภูเขาไฟอุดมสมบูรณ์ ความชื้นต่ำ แสงแดดจัด และคืนที่อากาศเย็นสบาย เขตพื้นที่ที่ปลูกกาแฟของที่นี่ได้แก่ Antigua, Acatenango, Atitlán, Cobán, Huehuetenango, Faijanes, San Marcos และ Nuevo Orientea

อันดับ 8 อินเดีย 234,000 ตัน

india coffee

มาสู่ภูมิภาคเอเชียกับประเทศอินเดีย ประเทศอินเดียนับว่าเป็นประเทศหนึ่งที่เก่งมาก หลังจากที่ประเทศอินเดียได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเกิดโรคสนิมในกาแฟในช่วงทศวรรษ 1870 หลายพื้นที่ในประเทศแทนที่ไร่กาแฟโดยการเปลี่ยนเป็นไร่ชา ตั้งแต่นั้นอินเดียถูกมองว่าเป็นประเทศแห่งชาไปโดยปริยาย แท้จริงแล้วจะบอกแบบนั้นก็ไม่ถูก ต้องบอกว่าเป็นประเทศแห่งกาแฟถึงจะถูกกว่า ในอินเดียนั้นมีกาแฟเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1600 ในช่วงสมัยที่ยังเป็นอาณาจักรโมกุล และชาเพิ่งจะมามีหลังจากที่เกิดวิกฤตทางกาแฟนี้เอง ถึงอย่างนั้น อุตสาหกรรมกาแฟอินเดียก็ฟื้นตัวได้อย่างน่าประหลาด

ก่อนเกิดวิกฤติ กาแฟอาราบิก้าของอินเดียนั้นค่อนข้างมีชื่อเสียง แต่หลังจากยุคเปลี่ยนผ่าน กาแฟส่วนใหญ่ที่ปลูกในอินเดียก็จะกลายเป็นโรบัสต้า ซึ่งคิดเป็น 60% ของการผลิตทั้งหมด ส่วนใหญ่ปลูกกาแฟกันในรัฐ Kerala, Tamil Nadu และ Karnataka ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย ส่วนใหญ่แล้วกาแฟอินเดียนั้นจะส่งออกไปยังยุโรป ซึ่งมักจะใช้ในการทำกาแฟผสม มีตำนานเล่าว่า กาแฟถูกนำกลับมายังชายฝั่งอินเดีย โดยชายผู้มีชื่อว่า Baba Budan ซึ่งลักลอบนำเมล็ดกาแฟจากตะวันออกกลางมายังอินเดียหลายเมล็ด และปลูกไว้ในรัฐ Karnataka นี่เอง

อันดับ 7 เปรู 346,466 ตัน

peru coffee

ประเทศเปรูนั้น มีภูมิภาคที่สามารถผลิตกาแฟได้มากมาย ทั้งในบริเวณตอนเหนือ ตอนกลาง และตอนใต้ของประเทศ กาแฟไม่ใช่พืชผลผลิตใหม่ที่ปลูกกันทั่วประเทศและปลูกเพื่อค้าขายในช่วงทศวรรษ 1700 กลับกัน สิ่งนี้ถูกมองข้ามโดยสิ้นเชิงจากรัฐ เนื่องจากปัญหาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีภายในประเทศ กาแฟที่ผลิตส่วนใหญ่นั้นก็จะมีเพียงแค่การบริโภคภายในประเทศเท่านั้น แต่ทศวรรษที่ผ่านมา ก็มีหลายอย่างเปลี่ยนไป เกษตรกรมีโอกาสส่งออกและตีตลาดโลกด้วยผลผลิตคุณภาพของที่นี่

หลายคนมองว่า กาแฟเปรูนับว่าเป็นม้ามืดที่จะมาเป็นคู่แข่งกับกาแฟดี ๆ จากทั่วโลก เนื่องจากกาแฟเปรูนั้นปลูกในที่ราบลุ่ม แนวโน้มของรสชาติจึงเป็นกาแฟบอดี้กลาง ๆ มีกลิ่นของดอกไม้และผลไม้ที่หอมหวาน อีกทั้งยังมีกาแฟบางส่วนที่ปลูกในที่ราบสูง โดยเฉพาะบนเทือกเขาแอนดีส จะมีกลิ่นดอกไม้ มีความเข้มข้นและ acidity สูง นับว่ามีความหลากหลายในรสชาติกาแฟในประเทศที่น่าจับตามองมาก

อันดับ 6 เอธิโอเปีย 471,247 ตัน

ethiopia coffee

ประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกา เอธิโอเปียมาเป็นอันดับ 6 ในฐานะผู้ผลิตกาแฟอันดับโลก ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เพราะในดินแดนนี้มีวัฒนธรรมกาแฟที่ฝังรากลึก ซึ่งมีอยู่ในฐานะจุดกำเนิดกาแฟของโลก มีตำนานเรื่องราวที่น่าสนใจกับการค้นพบเมล็ดอาราบิก้า และเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนาน

ประเทศเอธิโอเปียนั้นมีเมล็ดกาแฟหลายพันชนิด แต่ละชนิดก็มีลักษณะเฉพาะ มีรสชาติที่หลากหลาย และไม่เหมือนกับประเทศอื่น ๆ อย่างแน่นอน กาแฟที่ดีที่สุดจะมีไว้เพื่อการบริโภคภายในท้องถิ่นเท่านั้น และจะไม่มีวันถูกส่งออกนอกประเทศโดยเด็ดขาด อุตสาหกรรมกาแฟของเอธิโอเปียนั้น คิดเป็น 10% ของ GDP ในประเทศเลยทีเดียว

อันดับ 5 ฮอนดูรัส 475,042 ตัน

honduras coffee

กลับมาสู่ทวีปอเมริกากลาง ไม่น่าเชื่อว่าประเทศฮอนดูรัสจะแซงหน้าเอธิโอเปียมาเป็นอันดับ 5 ประเทศฮอนดูรัสนั้นมีสภาพอากาศที่คล้ายคลึงกับคอสตาริกาและกัวเตมาลา แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงครองตำแหน่งผู้ส่งออกกาแฟโลกในอันดับที่ 5 นี้อย่างน่าประหลาด ถึงแม้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ฮอนดูรัสจะถูกมองข้ามไปมาก ในอดีตนั้นฮอนดูรัสนั้นมีโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้ผลผลิตกาแฟส่วนใหญ่ขายเพียงแค่ในประเทศ โดยส่งออกกาแฟทั้งหมดเพียงแค่ 10% เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ กาแฟฮอนดูรัสกลับกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้นของตลาดโลก และมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียด้วย

กาแฟฮอนดูรัสส่วนใหญ่นั้นจะปลูกในไร่บนภูเขาเล็ก ๆ ที่เรียกว่า Fincas อยู่ที่ระดับความสูง 1,400-1,700 เมตร บนภูเขา Fincas นี้มีสภาพภูมิอากาศเป็นของตัวเอง ทำให้โปรไฟล์รสชาติของกาแฟที่ได้มีเอกลักษณ์ มีตั้งแต่เฮเซลนัท จนถึงวนิลลา บางตัวอาจมีรสของผลไม้สีแดงด้วย

อันดับ 4 อินโดนีเซีย 668,677 ตัน

indonesia coffee

กลับมาสู่ทวีปเอเชีย ประเทศอินโดนีเซียนั้นเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากประเทศนี้เป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยเกาะหลายพันเกาะ กาแฟที่หาดื่มได้จากประเทศอินโดนีเซียนี้จึงมีความหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ

การปลูกกาแฟในประเทศอินโดนีเซียนั้นเกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1600 ในช่วงยุคล่าอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ เกาะชวาเป็นสถานที่แรกในประเทศอินโดนีเซียที่ปลูกกาแฟกัน ดังนั้นกาแฟชวา หรือที่เราเรียกกันว่า Java จึงเป็นกาแฟที่มีชื่อเสียง ทั้งนี้ก็เนื่องจากรสชาติที่จะมีความ woody และ earthy อีกทั้งยังมีความเข้มข้น บอดี้เต็ม มีความหวาน และมี acidity ที่ค่อนข้างสูง

กาแฟของอินโดนีเซียนั้นยังจัดอยู่ในอันดับ Top 10 กาแฟที่ผู้คนทั่วโลกชอบ ทั้งกาแฟจากเกาะชวา สุมาตรา และสุลาเวสี ซึ่งอยู่ในอันดับต้น ๆ เหล่านี้คือกาแฟที่น่าจะถูกใจหลายต่อหลายคน ด้วยโน้ตของ earthy และมีความซับซ้อน ด้วยรสของเครื่องเทศและกลิ่นควัน พร้อมกับบอดี้ที่หนักแน่น และรสชาติที่เข้มข้น

อันดับ 3 โคลัมเบีย 754,376 ตัน

colombia coffee

ข้ามกลับมาที่อเมริกาใต้ ประเทศโคลัมเบียนั้นเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบสำหรับการปลูกกาแฟ ที่นี่จึงเป็นไม่กี่ประเทศที่สามารถผลิตเมล็ดกาแฟอาราบิก้าได้ 100% กาแฟโคลัมเบียนับว่าเป็นกาแฟที่มีชื่อเสียงมาก หากนึกถึงโคลัมเบีย เราจะนึกถึงกาแฟที่มีกลิ่นหอมหวาน และมีกลิ่นผลไม้ ในประเทศมีองค์กรชื่อ Café de Colombia ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เป็นองค์กรที่คอยช่วยเหลือชุมชนผู้ปลูกกาแฟ คอยดูแลให้เกิดความเป็นธรรม และนำกาแฟเหล่านั้นมาขายทั่วโลกด้วย

โดยทั่วไปแล้ว กาแฟโคลัมเบียจะถูกปลูกบนความสูงตั้งแต่ 1,500-2,000 เมตร กาแฟที่นี่จะมีบอดี้ปานกลาง มีกลิ่นหอมของถั่ว และมีกลิ่นของซิตรัส ให้รสชาตินุ่มนวลและความหวานที่ละเอียดอ่อนด้วย

อันดับ 2 เวียดนาม 1,542,398 ตัน

vietnam coffee

ประเทศเวียดนามนั้นเป็นประเทศอันดับ 2 ที่ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีอัตราการผลิตมากกว่า 1.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งกาแฟเป็นสินค้าส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากข้าว กาแฟได้เป็นที่รู้จักในประเทศเวียดนาม โดยในอดีตประเทศนี้เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ในช่วงปี 1800 มีการปลูกในภูมิภาค Buôn Ma Thuột ซึ่งก็ยังคงปลูกมาจนถึงทุกวันนี้ ประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งในผู้ผลิตกาแฟโรบัสต้าที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก และหลังจากที่ประเทศได้รับการปฏิรูปในปี 1986 ซึ่งทำให้วิสาหกิจเอกชนสามารถที่จะเติบโตได้อย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรม สิ่งนี้ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นประเทศที่มีการผลิตกาแฟสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกมาจนถึงทุกวันนี้

ประเทศเวียดนามมีเปอร์เซ็นต์การผลิตเม็ดกาแฟโรบัสต้า 40% ของการผลิตเมล็ดกาแฟโรบัสต้าโดยรวมของโลก กาแฟที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของความขมและ acidity ต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับนำไปทำเป็นกาแฟสำเร็จรูป และนำมาเป็นส่วนหนึ่งของกาแฟเบลนด์

อันดับ 1 บราซิล 2,680,515 ตัน

brasil coffee

อันดับ 1 ตกเป็นของประเทศบราซิล ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ โดยผลิตกาแฟได้กว่า 2.68 ล้านตันต่อปี ประเทศนี้ยังได้รับความนิยมในฐานะประเทศผู้ผลิตกาแฟชั้นนำของโลกมาเป็นเวลากว่า 150 ปีแล้ว ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเลยที่กาแฟบราซิลจะเป็นกาแฟที่ผลิตได้มากที่สุดในโลก โดยสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมสำหรับการปลูก ทั้งอาราบิก้าและโรบัสต้า

บราซิลเป็นประเทศที่มีทั้งแสงแดดและปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสม ระดับความสูงที่ไม่ได้สูงมากนัก และแม้แต่อุณหภูมิก็เหมาะสมตลอดทั้งปี กาแฟบราซิลจะขึ้นชื่อในเรื่องของความครีมมี่ acidity ต่ำ มีรสช็อกโกแลตเข้มข้น และมีความหวาน บางตัวจะมีกลิ่นคาราเมล ซึ่งนับว่าเป็นพื้นฐานของกาแฟที่ดื่มง่ายและน่าจะถูกปากใครหลายคน รวมถึงคนทั่วโลก