Espresso Romano เครื่องดื่มชนิดนี้เป็นเครื่องดื่มที่มีความเรียบง่าย แต่กลับแฝงความน่าสนใจไว้เป็นอย่างมาก รูปแบบที่ดั้งเดิม และน่าจะเป็นที่รู้จักมากที่สุด เป็นในรูปแบบของการเสิร์ฟ เอสเพรสโซ พร้อมกับมะนาวฝาน แต่ละร้านก็จะมีวิธีการเสิร์ฟที่แตกต่างกันออกไป
ถึงจะเป็นเครื่องดื่มที่มีความเรียบง่าย แต่เครื่องดื่มชนิดนี้ก็ยังคงมีความน่าสนใจในตัวเองอยู่มาก และถูกเรียกด้วยหลากหลายชื่อ ตามแต่ประเทศที่เสิร์ฟ หลายคนจึงมักจะสับสนเครื่องดื่มชนิดนี้อยู่บ้าง โดยเฉพาะที่เสิร์ฟในอิตาลีแต่ละภูมิภาค
และด้วยชื่อ Romano คำคำนี้เอง อาจจะทำให้หลายคนเกิดการเชื่อมโยงขึ้นโดยอัตโนมัติ ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ในอดีต เกี่ยวกับเรื่องของโรมัน หรือประเทศอิตาลี แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้ว เครื่องดื่มชนิดนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสองสิ่งนี้เท่าไหร่นัก อย่างน้อยก็ไม่ได้มีหลักฐานยืนยันอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับเรื่องความเกี่ยวข้องนี้
และต่อไปนี้ เราจะพาคุณมาทำความรู้จักเครื่องดื่มชนิดนี้ให้มากขึ้น ว่าด้วยเรื่องของ Espresso Romano ประวัติความเป็นมา และความนิยมในการดื่มในบางพื้นที่

ทำความรู้จัก Espresso Romano
Espresso Romano อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้ว เครื่องดื่มชนิดนี้เป็นเครื่องดื่มที่จะเสิร์ฟโดยทำการผสมเอสเพรสโซช็อต กับมะนาวฝาน หรืออาจเป็นน้ำมะนาว และอาจเติมน้ำตาลลงไปเพิ่ม 1 ช้อนชามะนาวฝานนี้ อาจจะทำการแช่ไว้ใน เอสเพรสโซ หรืออาจจะบีบลงไปผสม หรือจะใช้เป็นเครื่องเคียงเพื่อกินกับเครื่องดื่มก็ได้
เครื่องดื่มชนิดนี้ นับว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีความอเนกประสงค์มาก สามารถที่จะเสิร์ฟได้ทั้งในรูปแบบร้อน เย็น หรืออาจทำการใส่นมลงไปเพิ่ม หรือไม่ใส่ก็ยังได้ ร้านกาแฟบางแห่งทำการเพิ่ม anisette ลงไป สิ่งนี้คือเหล้าจากเมดิเตอร์เรเนียนที่ทำจากเมล็ดของต้นแอนิช (คล้ายกับเหล้าซัมบาก้าของอิตาลี หรือเหล้าปาสติสของฝรั่งเศส)
บริเวณเปลือกของมะนาวจะมีน้ำมันอยู่ ดังนั้นวิธีการเสิร์ฟ จึงมักบีบน้ำมันเหล่านั้นลงไปในถ้วยก่อน จากนั้นค่อยทำการกดช็อตเอสเพรสโซลงไป ซึ่งทำให้ Espresso Romano มีกลิ่นหอมของมะนาว และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก บางคนก็เลือกที่จะนำมะนาวใส่ลงไปในเครื่องดื่มต่อด้วย แต่บางคนก็นำเปลือกมะนาวนั้นออก เพราะอาจจะมีรสฝาดได้
เครื่องดื่มชนิดนี้นับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในบางพื้นที่ โดยในอิตาลี พื้นที่ที่เครื่องดื่มนี้ได้รับความนิยมคือ ในแถบภูมิภาค Campania โดยเฉพาะในแถบเมือง Naples, Capri และแถบชายฝั่ง Amalfi (Amalfi Coast) โดยจะไม่ได้ถูกเรียกว่า Espresso Romano แต่จะใช้ชื่อ caffè canarino หรือ caffè al limone แทน
หากถามผู้คนท้องถิ่น พวกเขาก็จะบอกว่า เครื่องดื่มชนิดนี้มีต้นกำเนิดที่เมือง Giugliano และนับว่าเป็นเครื่องดื่มขึ้นชื่อของเมืองนี้ อีกทั้งยังถือเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งของภูมิภาคด้วย
ในภูมิภาค Campania นี้ Espresso Romano จะมีเอกลักษณ์โดดเด่น เนื่องจากถูกเตรียมโดยใช้เอสเพรสโซ กับมะนาวซอร์เรนโต มะนาวพันธุ์นี้ได้รับรองเป็นถึงสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของที่นี่ โดยสหภาพยุโรป นั่นหมายความว่า เครื่องดื่มชนิดนี้ของที่นี่ จะเป็นเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ มีความน่าสนใจ และไม่เหมือนที่ไหน ๆ ในโลกอย่างแน่นอน ด้วยความเฉพาะนี้เอง เครื่องดื่ม Espresso Romano ของที่นี่จึงมีชื่อเสียง
นอกจากนี้แล้ว National Trust for Italy (Fondo Ambiente Italiano) ยังคงรักษาสวนมะนาวซอร์เรนโตอันเก่าแก่นี้ไว้เป็นอย่างดี ในพื้นที่ที่เรียกว่า Baia Di Leranto ตั้งอยู่บริเวณใล้กับคาบสมุทร Sorrentine
ประวัติศาสตร์ และเรื่องราวของ Espresso Romano
ถึงแม้ว่า “Romano” ซึ่งจะดูเหมือนชื่อของจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่อย่าง “Roman” แต่เราจะไปดูกันต่อ ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้มีความเกี่ยวข้องกับจักวรรดิอันยิ่งใหญ่นี้หรือไม่
บางคนกล่าวว่า เครื่องดื่ม Espresso Romano เกิดขึ้นโดยฝีมือของชาวอเมริกัน ที่ต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาภายในประเทศ จึงได้อ้างชื่อ โดยเรียกเครื่องดื่มชนิดนี้ว่า Romano บางคนก็อ้างว่า เครื่องืมชนิดนี้ได้ถูกคิดค้นขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส

ถึงแม้ว่า เราจะไม่มีหลักฐานอย่างแน่ชัดที่จะสามารถบ่งชี้ได้ ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี แต่อย่างน้อย เราก็เรียกเครื่องดื่มชนิดนี้ด้วยภาษาอิตาลี ดังนั้น จึงน่าจะมีความเกี่ยวข้องบางอย่างในจุดจุดนี้อยู่
สำหรับชาวอิตาลีนั้น นิยมที่จะบริโภคกาแฟโดยใช้หม้อ Moka pot และนิยมที่จะดื่มเอสเพรสโซกันมายาวนานกว่าหลายทศวรรษแล้ว เครื่องชงเอสเพรสโซ ได้ถูกประดิษฐิคิดค้นขึ้นมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กลับกัน หม้อ Moka pot ได้ถูกคิดค้นมาตั้งแต่ในช่วงทศวรรษ 1930 แล้ว ทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่แต่เดิมเกิดขึ้นที่อิตาลี แต่แล้ว ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ก็ได้เกิดเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ขึ้น ด้วยเหตุสงครามนี้เอง ประเทศอิตาลีจึงถูกจำกัดการนำเข้าสินค้า
ในช่วงที่กาแฟก็ถูกจำกัดการนำเข้าเช่นเดียวกัน ทำให้ชาวอิตาลีต้องปรับตัว และหันมาดื่มกาแฟสำเร็จรูปที่มีราคาถูก ซึ่งแหล่งที่สามารถหาซื้อได้ ก็คือในกลุ่มทหารอเมริกัน ในช่วงเวลานั้น กาแฟสำเร็จรูปนับว่าเป็นกาแฟที่มีรสชาติที่แย่เอามาก ๆ อีกทั้งรสชาติยังไม่เหมือนกับกาแฟสำเร็จรูปที่เราหาซื้อได้ทั่วไปในปัจจุบันเลยด้วยซ้ำ
หลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ยุติลง ยังคงเป็นช่วงเวลาที่การค้ายังไม่กลับมาเป็นปกติ การค้าระหว่างประเทศยังคงแย่อยู่ ในที่สุด วิกฤติทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในประเทศอิตาลีก็ได้เกิดขึ้น ด้วยเหตุที่กล่าวมานี้ กาแฟที่มีอยู่ก็หาค่อนข้างยาก อีกทั้งกาแฟที่ได้รสชาติก็แย่มาก จึงจำเป็นที่จะต้องกลบรสชาติที่แย่นี้ ได้ทำการนำมะนาวมาใช้ เพื่อปกปิดรสชาติอันไม่พึงประสงค์
รสชาติของ Espresso Romano
เมื่อเราทำการนำผสมมะนาวลงไปเพิ่มในเอสเพรสโซ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ความคมชัดจะเพิ่มขึ้น และความเป็นกรดก็จะสมดุล ทำให้เกิดบาลานซ์ที่ดี ด้วยความเป็นกรดและความคมชัดนี้ บวกกับความหนักแน่นและความขมของเอสเพรสโซ กรดซิตริกสามารถที่จะเข้ากันได้ดีกับผลไม้รสเปรี้ยว ตัดกับรสขมของกาแฟ รสเปรี้ยวและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของมะนาวจึงโดดเด่นขึ้นมา
และด้วยการผสมส่วนผสมทั้งสองอย่างนี้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงอยู่แล้วตามธรรมชาติ แต่ต้องในกรณีที่เราใช้กาแฟคุณภาพด้วย หากกาแฟของเราเป็นกาแฟคุณภาพต่ำ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ เครื่องดื่มอาจจะมีรสขม หรือมีความเข้มมากจนเกินไป และอาจจะไปกลบรสชาติอันมีเอกลักษณ์ของมะนาวได้อีกด้วย
คุณสมบัติอื่นของเครื่องดื่มชนิดนี้ก็มีอยู่ด้วย สำหรับนักดื่ม Espresso Romano งสามารถที่จะบรรเทาอาการเมาค้างได้ เนื่องจากตามธรรมชาตินั้น คาเฟอีนมีคุณสมบัติในการบีตัวของหลอดเลือด ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวดด้วย ในชณะเดียวกัน น้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในมะนาว จะทำหน้าที่ในการช่วยย่อยอาหาร และยังเป็นตัวที่เร่งการเผาผลาญได้อีก
Espresso Romano เครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่มีความแปลกใหม่ จะบอกว่า ในบ้านเราไม่สามารถหาดื่มได้ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพียงแต่เป็นเพียงแค่บางคนเท่านั้น ที่จะฝานมะนาวลงไปในกาแฟ และก็ยังคงมีบางร้านกาแฟ เสิร์ฟเครื่องดื่มแบบนี้อยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งชื่ออย่างชัดเจน เครื่องดื่มชนิดนี้มีเรื่องราว และประวัติความเป็นมาที่ค่อนข้างซับซ้อน และน่าจะเป็นที่ถกเถียงกันอีกนาน ไม่ว่าใคร ก็เคลมว่าเครื่องดื่มชนิดนี้เป็นของตนเอง ดังนั้นจึงยังไม่สามารถสรุปมาอย่างแน่ชัดได้

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม Espresso Romano จะเป็นเครื่องดื่มที่เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส โรม หรือเมืองเล็ก ๆ ในประเทศอิตาลีอื่น ๆ แต่อย่างน้อย ด้วยการตั้งชื่อนี้ เครื่องดื่มชนิดนี้ก็เรียกได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของอิตาลีบางอย่างอยู่ และมองอีกมุม ด้วยรสชาติของเครื่องดื่มชนิดนี้ ที่มีสมดุลระหว่างความเป็นกรด และความเข้มข้น จึงนับว่าเป็นเครื่องดื่มในอดีต ที่มีความสอดคล้องกับวัฒนธรรมการบริโภคกาแฟพิเศษ หรือกาแฟสเปเชียลตี้สมัยใหม่ได้ด้วยเหมือนกัน นับได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่ข้ามยุคข้ามสมัยเลยก็ได้