Mana.Chujai โฮมคาเฟ่และร้านคราฟต์ในซอยลาดพร้าววังหิน 3
นักเรียนไทยสมัยเก่าจนถึงปลายปี 2000 น่าจะคุ้นเคยกับชื่อมานะ มานี ปิติ และชูใจ ตัวละครในหนังสือแบบเรียนภาษาไทยที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยก็ยังตราตรึงใจทุกที ไม่แน่ใจว่าเด็กนักเรียนยุคนี้จะยังได้ใช้แบบเรียนเล่มที่ว่าอยู่ไหม เพราะถือว่าสนุกใช้ได้เลย เข้าเรื่องกันดีกว่า จริง ๆ มันไม่ได้เกี่ยวกับอะไรกันมากมายหรอก แค่จู่ ๆ ก็ไปสะดุดตากับชื่อร้าน Mana.Chujai คาเฟ่ย่านลาดพร้าวที่เราแอบคิดว่าคงเคยผ่านหนังสือเล่มนั้นมาเหมือนกัน
ขอยกให้ว่าย่านนี้ไม่มีใครให้ความสบายใจได้ดีไปกว่าร้าน Mana.Chujai ส่วนตัวเป็นคนชอบบรรยากาศสบาย ๆ เหมือนอยู่บ้านได้ยิ่งดี ซึ่งที่นี่ตอบโจทย์มาก ๆ ๆ ๆ ถึงมากที่สุด ด้วยความเป็นคาเฟ่สไตล์โฮมมี่ในสวนหลังบ้าน ภายนอกตกแต่งโทนสีขาวตัดสลับกับสีเขียวของต้นไม้จัดวางไว้รอบ ๆ ดูสบายตา ส่วนในร้านเป็นโครงสร้างสีขาวของบ้านตัดสลับกับสีน้ำตาลของเฟอร์นิเจอร์ไม้สุดชิค ไม่ว่าจะโต๊ะนั่ง ชั้นวางของ หรือแม้กระทั่งเคาน์เตอร์บาร์กลางร้าน
แสงแดดลอดผ่านหน้าต่างสาดเข้ามาโดนโซฟาคือมุมที่เราชอบที่สุด อารมณ์ฉากหนังอินดี้ที่มีพระเอกแต่งตัวสไตล์มินิมอลนั่งจ้องนางเอกทำงานอยู่อะไรประมาณนั้น ทุกอย่างมันคล้ายภาพในฝัน แต่มันดันเป็นความจริง บรรยากาศที่ห้อมล้อมไปด้วยความละมุนคือสิ่งที่รับรู้ได้ผ่านสายตาและความรู้สึก ซึ่งมีอยู่ในทุกที่ของ Mana.Chujai
กลิ่นอายของงานคราฟต์และศิลปะคืออีกอย่างที่สัมผัสได้จากที่นี่ งานฝีมือชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนถึงชิ้นใหญ่คอยบอกอ้อม ๆ ว่าไม่ได้มีไว้แค่ตกแต่งเฉย ๆ แต่มีไว้ขายแบบไม่ได้แปะป้ายบอกราคา ซึ่งหากดูแล้วถูกใจก็สามารถสอบถามราคากับเจ้าของร้านได้ มีให้เลือกตั้งแต่ก้านไม้หอม สมุดโน๊ต สติ๊กเกอร์ ช้อนไม้ เสื้อผ้ามือสอง เฟอร์นิเจอร์ และอื่น ๆ เยอะอีกเยอะมาก ซึ่งหยิบของชิ้นไหนก็ดูจะน่ารักไปหมด
ส่วนเครื่องดื่มมีทั้ง Coffee และ Non – Coffee ซึ่ง Signnature Drinks ที่ไม่ว่าใครมาแล้วจะต้องสั่ง คือเมนู Black Orange น้ำส้มคั้นสดหอม ๆ กับรสชาติกาแฟที่ผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัว หรือจะเป็น Black Co-co น้ำมะพร้าวสดกับกาแฟ รวมกันเป็นความหวานมันกลมกล่อม และถ้าได้ทานคู่กับเบอเกอรีโฮมเมดของทางร้านอย่าง Toffer Macadamia Cake ยิ่งทำให้ติดใจไปกันใหญ่
